โซดาไฟ อันตรายที่พึงระวัง

หากคุณกำลังประสบปัญหาท่อตัน วิธีแก้ปัญหาวิธีหนึ่งที่คุณจะนึกถึงคงต้องมี “โซดาไฟ” อยู่แน่ เพราะสามารถนำมาแก้ปัญหาท่อตันได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รับความนิยม แต่ถึงแม้ว่าโซดาไฟ จะมีประโยชน์มากมาย ก็ย่อมที่จะมีโทษด้วยเช่นกัน หากใช้ผิดวิธี หรือไม่ระวังในการใช้ วันนี้เรามีอันตรายจากโซดาไฟมาฝากค่ะ
1. ทำให้ผิวไหม้
หากคุณสัมผัสถูกโซดาไฟโดยตรง ผิวหนังของคุณจะไหม้ได้ เนื่องจากฤทธิ์การกัดกร่อนที่มีประสิทธิภาพของมัน ซึ่งหากเผลไปสัมผัสถูกเข้าก็อย่าเพิ่งตกใจนะคะ ให้ล้างด้วยน้ำไหลอย่างน้อย 30 นาที เพื่อเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นให้รีบไปหาแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนังทันที
หากว่าเสื้อผ้าของคุณสัมผัสโดนเข้าด้วย ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัย และอย่าเผลอไปสัมผัสถูกจากเสื้อผ้าด้วยล่ะ

2. ทำให้ตาบอดได้
ถ้าไม่ทันระวัง และเผลอทำโซดาไฟสัมผัสถูกดวงตาหรือเข้าตา อาจเกิดการระคายเคือง และถึงขั้นตาบอดได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสาร แต่ก็ส่งผลร้ายต่อดวงตาอย่างแน่นอน
วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นนั้น ให้ล้างดวงตาด้วยน้ำไหลอย่างน้อย 30 นาทีเช่นกัน เพราะน้ำจะช่วยเจือจางสารให้ได้ จากนั้นจึงรีบไปพบแพทย์ แต่แนะนำว่า ควรให้ผู้อื่นพาไปจะดีที่สุดนะคะ เนื่องจากการมองเห็นและสติของคุณอาจจะไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะเดินทางด้วยตนเอง

3. เกิดแผลลวกไหม้ภายในปากและลำคอ
หากคุณเผลอทำให้โซดาไฟเข้าไปในปาก อาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน ท้องเสีย บางครั้งอาจหมดสติ และแน่นอนว่าย่อมเกิดแผลลวกไหม้ภายในปากและลำคอ ซึ่งหากรับเข้าไปในปริมาณมาก อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่หากไม่ถึงขั้นเสียชีวิต คุณอาจเป็นมะเร็งได้เช่นกันในอนาคต
วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้ล้างปากด้วยน้ำไหลผ่านประมาณ 30 นาทีเช่นกัน และอาจบ้วนปากร่วมด้วย เพื่อให้สารมีความเข้มข้นน้อยลง และบรรเทาอาการปวดแสบร้อนภายในปาก และระวังห้ามกลืนน้ำลงคอไปเด็ดขาด จากนั้นจึงรีบพาไปพบแพทย์

4. เป็นมะเร็งปอดได้
เนื่องจากโซดาไฟจะทำปฏิกิริยากับน้ำจะเกิดเป็นฟองและมีไอระเหยออกมา ซึ่งแม้จะไม่เป็นอันตรายอะไรในทันที หรือไม่ได้ไปสัมผัสโดน แต่หากสูดดมเข้าไป ก็อาจเป็นมะเร็งปอด หรือเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ ทางที่ดี จึงควรหาผ้าปิดจมูก หรือใส่แมสเพื่อป้องกันทุกครั้ง

รู้ถึงอันตรายของโซดาไฟแล้ว ก็ระมัดระวังในการใช้กันด้วยนะคะ หรือหากไม่แน่ใจในตนเอง ก็ควรให้ผู้เชี่ยวชาญมาจัดการให้จะปลอดภัยกว่า
ข้อมูลจาก ท่อตันแก้ได้.com